วัดดอนตูม (จังหวัดราชบุรี) คืออะไร
วัดดอนตูม เป็นวัดในพระพุทธศาสนา สังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง
จังหวัดราชบุรี ตั้งมาประมาณ 227 ปี
เป็นวัดที่มีความสำคัญในฐานะเป็นศูนย์กลางของชาวพุทธในบริเวณตำบลบ้านโป่ง
ประวัติ
- เดิมทีที่ตั้งวัดเป็นที่ดอนเป็นป่าดงพงไพร เป็นที่อาศัยของเหล่าฝูงสัตว์เช่น เก้ง กวาง เป็นต้น
มีหนองน้ำล้อมรอบอยู่ 3 แห่ง คือ หนองตามี หนองหลุม หนองเย็น
ฝูงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าดอนนี้ ก็ได้อาศัยน้ำในหนองทั้ง 3 นี้เป็นที่เล่นที่กิน
พรานทั้งหลายที่ชอบเที่ยวล่าสัตว์ ก็จะมาล่าสัตว์อยู่ในป่าดอนนี้อยู่เสมอ
สมัยนั้นอาวุธที่พรานทั้งหลายใช้ล่าสัตว์คือ “ปืนแก๊ป” เมื่อยิงสัตว์เสียงปืนก็จะดัง “ตูม ตูม”
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณถิ่นฐานนั้น มักจะได้ยินเสียงปืนของบรรดาพรานทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
เพราะถือเอานิมิตของเสียงปืนที่ชาวบ้านได้ยิน จึงเรียกป่าดอนนี้ว่า “ดอนตูม”
และเป็นที่มาของชื่อ “วัดดอนตูม” มาจนตราบเท่าปัจจุบันนี้
- สมัยนั้นมีปืนอยู่ชนิดหนึ่ง สำหรับมีไว้ป้องกันตัว และล่าสัตว์ เรียกว่า ปืนแก๊ป
เมื่อยิงไปแล้วดังตูม ๆ คล้าย ๆ พลุไทย ดังไม่เหมือนปืนสมัยปัจจุบัน คำว่า “ตูม ตูม”
เป็นสำเนียงเสียงภาษาของคนในสมัยนั้น ในท้องถิ่นตำบลนั้น
- วัดดอนตูมตั้งเมื่อ ได้สร้างวัดเมื่อประมาณ พ.ศ. 2330
และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 16 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2516
เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร
เจ้าอาวาส
วัดดอนตูม ในสมัยนั้นโบราณเล่าว่า บางปีมีพระจำพรรษาแต่ในฤดูฝน ในระยะต้นๆ นั้น
ไม่ปรากฏเจ้าอาวาสเป็นที่แน่นอน มีมากี่รูปแล้ว ต่อมาในสมัยระยะกลางๆ มี เจ้าอาวาสที่ปรากฏชื่อ
คือ
- 1) พระภิกษุจันทร์ (ไม่ปรากฏประวัติ)
- 2) พระภิกษุเบ้า (ไม่ปรากฏประวัติ)
- 3) พระภิกษุสิน (ไม่ปรากฏประวัติ)
- 4) พระภิกษุย้อย (ไม่ปรากฏประวัติ)
- 5) พระภิกษุมืด (ไม่ปรากฏประวัติ)
- 6) พระอธิการโลน (หลวงพ่อโลน)
ท่านก็ได้บูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะของวัดตามสมควรแก่กาลสมัย
และได้สร้างเสริมเติมต่ออุโบสถที่ตกค้างมาสมัยเจ้าอาวาสองค์ก่อนๆ จนเป็นที่สำเร็จเรียบร้อย
ต่อมาท่านคิดที่จะสร้างศาลาการเปรียญวัดดอนตูมขึ้น ท่านได้จัดหาอุปกรณ์การก่อสร้างไว้พอควร
แต่ยังไม่ได้สร้าง ท่านก็มรณภาพไปตามอายุขัย
- 7) พระครูปัญญาธิการ (เต่า โพธิสาโร) ได้รับรักษาการ
และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดอนตูม ต่อจากหลวงพ่อโลน ท่านได้โยกย้ายกุฎีสงฆ์
จัดสร้างขึ้นใหม่ และสร้างศาลาการเปรียญใหม่ กว้าง 16 เมตร ยาว 26 เมตร
จนสำเร็จเรียบร้อย และได้จัดสร้างโรงเรียนขึ้น 1 หลัง สร้างปูชนียสถานพระพุทธฉายจำลอง
สร้างกำแพงกั้นแขตวัด และท่านได้มรณภาพลง เมื่ออายุ 52 ปี (ปี พ.ศ. 2492)
- 8) พระครูโสภณรัตนากร (เพิ่ม เขมกาโม) จากการศึกษาประวัติ
ท่านเป็นผู้มีอัธยาศัยที่เรียบร้อย สุขุมเยือกเย็น รักความสะอาด รักความเป็นระเบียบเรียบร้อย
มีกำลังใจที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว จะทำสิ่งใดก็มุ่งทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ งานทุกครั้งที่จัดทำขึ้น
มักเป็นงานใหญ่และแปลกเสมอ และไม่ซ้ำแบบใคร ด้วยเหตุที่ท่านมีอัธยาศัยตามที่กล่าวนี้
ทำให้ท่านเป็นที่เคารพนับถือของพระภิกษุสงฆ์ ประชาชน
และทำให้งานด้านการบริหารการปกครองวัดงานคณะสงฆ์
ตลอดถึงงานที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยลุล่วงไปด้วยจนเป็นที่ไว้วางใจของพระเถรานุเถระตลอดมา
และที่สุดงานด้านการปกครองท่านก็ได้ยุติลง ท่านได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์
2518 เวลา 14.00 น. รวมระยะเวลาการปกครอง 25 ปี
- 9) พระครูอินทคุณาวสัย (ตัน องฺกุโร) ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดดอนตูม เมื่อ
พ.ศ. 2518 จนถึงปัจจุบัน
ศาสนาสถานในวัด
พระครูอินทคุณาวสัย (หลวงพ่อตัน อังกุโร)
ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากพระครูโสภณรัตนากร เมื่อ พ.ศ. 2518 มาจนถึงปัจจุบัน
ผลงานด้านการสาธารณูปการของท่าน มีดังนี้
- 1. นับตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส
ท่านได้ดำเนินการสร้างอุโบสถต่อจากพระครูโสภณรัตนากร จนเป็นที่แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.
2542
- 2. ดำเนินการสร้างกุฎีโฆษิตสกุล กว้าง 8.50 เมตร ยาว 10 เมตร
เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น หลังคาทรงไทย มุงกระเบื้องสีเหลืองแก่
หน้าต่างกระจกใส ลูกกรงเหล็ก บันใดอยู่ในกุฎี ชั้นบนพื้นไม้แข็ง ชั้นล่างพื้นคอนกรีตหินขัด
เป็นที่พำนักของเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2519
- 3. ดำเนินการสร้างกุฎีศิริทวี กว้าง 8.70 เมตร ยาว 10 เมตร สร้างแล้วเสร็จเมื่อ
พ.ศ. 2520 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น หลังคาทรงไทย มุงกระเบื้องสีเหลืองแก่
หน้าต่างกระจกใส ลูกกรงเหล็ก บันใดอยู่ในกุฎี ชั้นบนพื้นไม้แข็ง
ชั้นล่างพื้นคอนกรีตปูพื้นไม้แข็งลายขัด
- 4. สร้างกุฎียิ้มนิธากรณ์ กว้าง 7.30 เมตร ยาว 18 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2525
เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น หลังคาทรงไทย มุงกระเบื้องสีเหลืองแก่
หน้าต่างไม้แบบสมัยใหม่ ปิดเปิดด้านนอก ลูกกรงเหล็ก ชั้นบนและชั้นล่าง พื้นคอนกรีตขัดมัน
บันไดอยู่ในกุฎี ชั้นบนใช้เป็นที่พักสำหรับพระภิกษุสามเณร ชั้นล่างใช้เป็นหอฉัน และหอสวดมนต์
- 5. สร้างกุฎีใหญ่-โสภณ กว้าง 8.70 เมตร ยาว 10.10 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.
2523 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น หลังคาทรงปั้นหยา มุงกระเบื้องรอนคู่สีเขียว
หน้าต่างไม้แบบสมัยใหม่ ปิดเปิดด้านนอก ลูกกรงเหล็ก บันไดอยู่ในกุฎี ชั้นบนเป็นพื้นไม้แข็ง
ชั้นล่างพื้นคอนกรีตขัดมัน
- 6. หอระฆัง กว้าง 5.30 เมตร ยาว 5.30 เมตร สร้างเสร็จเมื่อพ.ศ. 2528
- 7. สร้างประปา กว้าง 3.50 เมตร ยาว 3.50 เมตร สูง 10.50 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ
พ.ศ. 2524 อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ชั้นบนเป็นถังประปา ทรงกลม จุน้ำประมาณ
15 ลูกบาตเมตร หรือประมาณ 19,995 ลิตร ชั้นล่างใช้เป็นห้องไว้ปั๊มน้ำ สำหรับฉุดน้ำขึ้นถัง
- 8. พ.ศ. 2533 บูรณซ่อมแซมครัวคู่เมรุ และทำกำแพงกั้นเขตวัดด้านทิศเหนือ
- 9. พ.ศ. 2534 ดำเนินการสร้างกุฎีสงฆ์ เป็นตึก 2 ชั้น ลักษณะทรงไทย
หลังคากระเบื้องเคลือบกาบกล้วยสีแดง กว้าง 7 เมตร ยาว 9.50 เมตร
และสร้างกำแพงกั้นเขตวัดด้านทิศตะวันตก ลักษณะคอนกรีตเสริมเหล็ก
- 10. พ.ศ. 2535 สร้างเสริมเติมต่อเขาพระพุทธฉายจำลอง ลักษณะคอนกรีตเสริมเหล็ก
- 11. พ.ศ. 2537 สร้างห้องน้ำ ลักษณะก่ออิฐถือปูน หลังคาคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 4
ห้อง
- 12. พ.ศ. 2538 ก่อสร้างกุฏีพุทธศาสน์ ลักษณะตึก หลังคาทรงไทย 2 ชั้น
ชั้นล่างใช้เป็นห้องเรียนปริยัติธรรม ชั้นบนเป็นที่พักสงฆ์ จำนวน 14
ห้องหลังคากระเบื้องเคลือบสีแดง กว้าง 21 เมตร ยาว 35 เมตร
- 13. พ.ศ. 2539 ซ่อมเตาเผาศพ, เทคอนกรีตพื้นถนนหน้าศาลาการเปรียญ,
ซ่อมแซมและทาสีมณฑป
- 14. พ.ศ. 2540 สร้างกุฏีสงฆ์ ลักษณะอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น หลังคาทรงไทย
กว้าง 7 เมตร ยาว 10 เมตร
- 14. พ.ศ. 2541 สร้างหอกลอง อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น หลังคาทรงไทย กว้าง
5.30 เมตร ยาว 8 เมตร
- 16. พ.ศ. 2542 สร้างโรงพิพิธภัณฑ์ อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาทรงไทยปั้นหยา
กว้าง 8 เมตร ยาว 17 เมตร
กิจกรรมในวัด
กิจกรรมที่โดดเด่นของวัดดอนตูมนั้น กิจกรรมหลัก ๆ มีดังนี้ 1. การสอนการบรรยายธรรม
แก่เด็กนักเรียน ทั้งโรงเรียนในวัดและนอกวัด และประชาชนเนื่องในโอกาสบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ
- การจัดงานปิดทองพระพุทธฉายประจำปี ซึ่งตรงกับวันเพ็ญกลางเดือน 3 ของทุกปี
มีประชาชนทั้งในและนอกอำเภอ มาสักการบูชา และเที่ยวงานเป็นจำนวนมาก เฉพาะวันขึ้น 15 ค่ำ
เดือน 3 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา ประชาชนจะมาทำพิธีเวียนเทียนรอบองค์ พระพุทธฉาย
มากเป็นพิเศษ
- การจัดงานเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก ในเทศกาลวันออกพรรษา
เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามไว้
- การจัดงานประเพณีเทศกาลวันสงกรานต์ ทางวัดได้ร่วมกับเทศบาลเมืองบ้านโป่ง
จัดงานวันสงกรานต์ ในวันที่ 13-15 เดือนเมษายน ของทุกปี
เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้าน มีการจัดขบวนอัญเชิญพระพุทธสิหิงส์
จากวัดดอนตูม ไปรอบตลอด เพื่อให้ประชาชนได้บูชาสักการะ, การสรงน้ำพระ, การรดน้ำดำหัว,
และจัดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน เป็นต้น
- การจัดบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน วัดดอนตูม
ได้จัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเป็นประจำทุกปี โดยกำหนดเอาวันที่ 1-30
เดือนเมษายน รวมระยะเวลาของโครงการ 1 เดือน
มีผู้ปกครองพาบุตรหลานของตนมาสมัครบรรพชา เฉลี่ยปีละ 100 คน
6.การจัดกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทางศาสนา เมื่อวันสำคัญทางศาสนาเวียนมาถึง คือ วันมาฆบูชา
วันวิสาขบูชา วันอัฐมีบูชา และวันอาสาฬหบูชา มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญดังกล่าวขึ้น เช่น
จัดให้ประชาชนถือศีล ทำบุญใส่บาตร ฟังธรรม รวมถึงปฏิบัติธรรม ทำพิธีเวียนเทียน
และเลิกละอบายมุขต่างๆ
แหล่งที่มาดั้งเดิม: แบ่งปันกับ ใบอนุญาต Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0
หมวดหมู่